การนำเสนอนี้มุ่งสำรวจศักยภาพของการประยุกต์ใช้แนวคิดพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุเพื่อส่งเสริมความยุติธรรม ในฐานะองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการสร้างสันติภาพในบริบทของสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่ โดยวิเคราะห์ความเหมาะสมและประสิทธิผลของแนวทางดังกล่าวในการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ ทั้งนี้ ความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมีลักษณะเป็นการต่อสู้อันยืดเยื้อระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีแนวคิดชาตินิยมเชิงชาติพันธุ์และกองทัพไทย โดยมีรากเหง้าย้อนไปกว่าหนึ่งศตวรรษ สถานการณ์ความขัดแย้งนี้ทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ ค.ศ. 2004 อันเป็นผลมาจากความไม่พอใจเกี่ยวกับอัตลักษณ์มลายู-มุสลิม การสูญเสียอำนาจการปกครองตนเองในอดีต ข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และนโยบายที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามทั้งทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ แม้จะมีความพยายามในการเจรจาสันติภาพ และริเริ่มโครงการพัฒนาเศรษฐกิจหลายครั้ง แต่ประเด็นหลักเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ความอยุติธรรม และการบังคับกลืนกลายทางวัฒนธรรมยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
ค.ศ. 2020 ได้มีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งร่วมกันก่อตั้งโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุจังหวัดชายแดนใต้ โดยมุ่งเน้นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในอำเภอตากใบเมื่อ ค.ศ. 2004 เป็นกรณีศึกษานำร่อง วัตถุประสงค์หลักคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและนำเสนอเรื่องราวเหล่านั้นในฐานะเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญต่อสังคม มิใช่เพียงเรื่องราวส่วนบุคคลที่แยกส่วน โดยมุ่งหมายที่จะสื่อสารถึงประเด็นความรุนแรงโดยไม่ต้องนำเสนอภาพความรุนแรงโดยตรง และหลีกเลี่ยงการสร้างเรื่องเล่าที่เน้นอารมณ์สะเทือนใจ แต่เน้นการนำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เกิดบทสนทนาภายในจิตใจของตนเองหรือระหว่างกันและกัน
ทั้งนี้ โครงการนี้เผชิญความท้าทายหลายประการ อาทิ การระดมทุน การเข้าถึงเอกสารราชการ และการสร้างความไว้วางใจกับครอบครัวผู้เสียหาย นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้การปฏิบัติงานภาคสนามมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น จำเป็นต้องพึ่งพานักวิจัยในพื้นที่ นิทรรศการแรกภายใต้ชื่อ "สดับเสียงเงียบ จดจำตากใบ 2004" (Heard the Unheard: Takbai 2004) ซึ่งจัดแสดงเมื่อ ค.ศ. 2023 ได้เดินทางไปจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆ และได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากสาธารณชนและสื่อมวลชน ซึ่งทางโครงการฯ ได้รับข้อเสนอแนะให้นำนิทรรศการกลับไปจัดแสดงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น การนำเสนอนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ความท้าทายและศักยภาพของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุในการส่งเสริมความยุติธรรม โดยทำหน้าที่เป็นพื้นที่สาธารณะในการขยายเสียงของผู้ได้รับผลกระทบ สร้างบทสนทนา และตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน อันเป็นการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ แม้ในบริบทของความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่